เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่มีคนต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยเฟซบุ๊ก มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี รายงานว่า นางเอ (นามสมมติ) พาหลานชาย อายุ 6 ขวบ นักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เข้าร้องเรียนหลังหลานชาย ถูกครูผู้หญิงซึ่งเป็นครูประจำชั้น ใช้กิ่งไม้เฆียนตีที่หลัง และแขน จนเนื้อแตก และเป็นไข้ โดยอ้างว่าที่ทำเพราะหลานดื้อ ซน ชอบแกล้งเพื่อน และไม่ตั้งใจเรียน
นางเอ เผยว่า ครูคนดังกล่าวเคยทำรุนแรงกับหลานมาแล้วครั้งหนึ่ง คือก่อเหตุหยิกจนมีรอยช้ำไปทั้งตัว และใช้มือทุบหลัง แต่ครั้งนั้นเคลียร์จบ เพราะไปบอกผู้อำนวยการโรงเรียน จึงมีการไกล่เกลี่ยและครูก็มาขอโทษ บอกจะไม่ทำอีก แต่เมื่อเกิดเรื่องอีกครั้งนี้ ครอบครัวยืนยันว่าจะไม่ยอมแล้ว เบื้องต้นได้แจ้งความไว้ที่ สภ.บ้านโป่ง
ทั้งนี้ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ. สุทธิพงษ์ พงศ์ประภาอำไพ ผกก.สภ.บ้านโป่ง เพื่อนัดสอบสหวิชาชีพก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ภาพดังกล่าว
ภาพดังกล่าว
นางขวัญ กล่าวต่อว่า ตนยอมรับว่าหลานชายเป็นเด็กซน ซึ่งก็ยินยอมหากทางครูจะทำโทษด้วยการตี หากหลานทำผิดกฎระเบียบของโรงเรียน แต่การทำโทษของครูที่ผ่านมา ตนมองว่ารุนแรงเกินไป จนทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บ ไม่กล้าที่จะไปโรงเรียน และมีผลกระทบทางด้านจิตใจ
ภาพดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ พงศ์ประภาอำไพ ผกก.สภ.บ้านโป่ง เผยว่า ตนได้เชิญผู้บริหารโรงเรียน ครูผู้ก่อเหตุ ผู้ปกครอง และเด็ก มาพูดคุยสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งทางครูก่อเหตุยอมรับว่าได้ทำโทษเด็กจริง เนื่องจากต้องการให้เด็กอ่านออกเขียนได้ ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายร่างกายรุนแรง เพียงแต่พลั้งมือ แต่ในส่วนของผู้ปกครองเห็นว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุและจากการพูดคุยทางผู้ปกครองได้ยื่นข้อเสนอ คือให้ครูย้ายออกจากโรงเรียน
ภาพดังกล่าว
เบื้องต้นทางผู้ปกครองได้ดำเนินการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปฐมศึกษา (สพป.) เขต 2 จ.ราชบุรี ได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ก่อนจะมีข้อสรุป เพื่อลงโทษทางวินัยต่อไป
ภาพดังกล่าว
ขอบคุณ มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี