ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันที่ 10 มิถุนายน 63 ที่ศาลอาญา ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่อ.2808/2562 ที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง บริษัท แหลมเกตอินฟินิท จำกัด นายอพิชาต หรือโจม บวรบัญชารักษ์ หรือ พารุณจุลกะ, นางสาวประภัสสร บวรบัญชา เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิด ร่วมกันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด คุณภาพ ปริมาณ ในสินค้าหรือบริการด้วยการโฆษณาข้อความอันเป็นเท็จ ตามพรบ.คุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343 เเละพรบ.คอมพ์
สำหรับพฤติการณ์การกระทำผิด คือ นายโจม พารณจุลกะ กรรมการบริษัท กับนางสาวประภัสสร ได้เปิดบริษัทแหลมเกตอินฟินิท และได้โฆษณาทางสื่ออิเล็กทรอนิค ผ่านโซเชียลเฟสบุ๊คและเว็บไซต์ของร้านชื่อ www.laemgate.net กับโปรแกรมแชทไลน์ Line:@laemgate ว่าจำหน่ายบัตรรับประทานอาหารเป็นจำนวนมากตามแต่ละโปรโมชั่นและมีราคาถูกต่ำกว่าความเป็นจริง
เช่น โปรราชาทะเลบุฟเฟ่ต์ ขายเป็นชุด ชุดละ 880 บาท มี 10 ที่นั่งๆละ 88 บาท โปรนาทีทองมาแล้วจ้า ขายเป็นชุดๆ ชุดละ 2,020 บาท มี 20 ที่นั่งๆ ละ 101 บาท โปรแฟนพันธุ์แท้ ขายเป็นชุดๆ ละ 3,000 บาท มี 30 ที่นั่งๆละ 100 บาท และโปรโมชั่นหมีหมี เป็นต้น
โดยลูกค้าต้องจองคิววันที่จะเข้าไปทานอาหาร ผ่านทางระบบออนไลน์ของร้าน ซึ่งให้ผู้ที่สนใจโอนเงินเข้า บัญชี ธ.กสิกรไทย เลขที่บัญชี 0401759603 ชื่อบัญชี บจก.แหลมเกต อินฟินิท จนมีคนหลงเชื่อโอนเงินไปจำนวนมาก
ต่อมาวันที่ 22 มีนาคม 2562 ทางร้านอาหารแหลมเกต อินฟินิท ได้ประกาศทางโปรแกรมไลน์และเฟสบุ๊คขอยกเลิกและงดบริการทุกโปรโมชั่น เนื่องจาก ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามและเกินความคาดหมาย ทำให้วัตถุดิบจากแหล่งผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ เพราะใช้วัตถุดิบสูงเกินกว่าที่คาดการณ์ จึงเป็นเหตุให้มีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา
โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานประกองคำรับสารภาพเเล้วพิพากษาว่า จำเลยทั้ง 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343 วรรคแรก ประกอบมาตรา 341, 83 พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มาตรา 47 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (1) การกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91
ฐานเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิดคุณภาพปริมาณ หรือสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการฐานหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จและฐานหลอกลวงผู้อื่น ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90
ฐานหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จกับฐานหลอกลวงผู้อื่นโดยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนมีอัตราโทษเท่ากัน จึงให้ลงโทษฐานหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนเพียงบทเดียว ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343 วรรคแรกประกอบมาตรา 341, 83 จำเลยทั้ง 3 ร่วมกันกระทำความผิดรวม 723 กระทงให้จำคุกจำเลยที่ 2,3 ทุกกระทง กระทงละ 2 ปี รวมจำคุกคนละ 1,446 ปี
ส่วนจำเลยที่ 1 ให้ปรับกระทงละ 5,000 บาท รวมปรับ 3,615,000 บาท จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งทุกกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 จำคุกจำเลยที่ 2, 3 คนละ 723 ปี แต่เมื่อรวมโทษจำคุกทุกกระทงความผิดแล้วคงจำคุกจำเลยที่ 2, 3 คนละ 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91(2)
จำเลยที่ 1 คงปรับ 1,807,500 บาท หากจำเลยที่ 1 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29 และให้จำเลยทั้งสามร่วมกันคืนเงินจำนวน 2,500,960 บาทเเก่เจ้าของ.
ขอบคุณที่มา ข่าวสด