หมอแนะวิธีสังเกต “เนื้องอกในมดลูก” โรคฮิตของสาววัยทำงาน หากปล่อยไว้ก้อนเนื้อจะโตขึ้นเรื่อยๆ แนะหากมีอาการเข้าข่าย รีบไปพบแพทย์ทันที
นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.รพ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Arak Wongworachat ให้ความรู้เกี่ยวกับ “เนื้องอกในมดลูก” ซึ่งเป็นโรคยอดฮิตของสาววัยทำงาน
โดยระบุว่า หมอสูตินรีเวชผ่าตัดมดลูกไป 4 ราย ให้กับผู้ป่วยอายุ 32 ปี / 36 ปี/ 40 ปี และ 42 ปีตามลำดับ เนื้องอกค่อนข้างโตมาก ตัวเนื้องอกมีรูปร่างและขนาดแตกต่างกันไป ตั้งแต่ 16-20 เซนติเมตร
สำหรับอาการหลักๆ ที่เหมือนกันทั้ง 4 ราย มีดังนี้
1. คนไข้คลำได้ก้อนที่ท้องน้อย ก้อนต้องโต 15 เซนติเมตร ขึ้นไปถึงจะคลำได้เองจากหน้าท้อง และทุกคนก็รีรอ ไม่มีเวลากลัวเสียงาน กังวลค่าใช้จ่ายทั้งที่มีบัตรทอง จึงทอดเวลาออกไปเกิน 1 ปี ไม่ได้ไปพบแพทย์ ก้อนจึงโตขึ้นไปเรื่อยๆ
2. ประจำเดือนผิดปกติ ปวดมากเวลามีประจำเดือน เลือดออกมาก มานานหลายวันกว่า 7 วัน ออกเป็นลิ่มเลือด บางรอบเดือน วูบเป็นลมไปเลยก็มี
3. ปวดถ่วงท้องน้อย ปัสสาวะบ่อย บางครั้งติดขัด จนติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะก็บ่อยครั้ง
4. ท้องผูกบ่อยๆ เข้าห้องน้ำต้องนั่งเป็นเวลานาน
5. บางคนยังไม่มีบุตร ไปพบสูติแพทย์ พออัลตราซาวนด์ก็เจอก้อนบางคนทราบดีว่าคลำได้ก้อน แต่กลัวเป็นมะเร็ง จึงไม่กล้าไปพบแพทย์ กลัวต้องตัดมดลูก ขาดการติดตามอาการ ก้อนจึงโตขึ้นมากเมื่อทราบอย่างนี้แล้วก็อย่ากลัวที่จะพบแพทย์และติดตามรักษาตามคำแนะนำที่ถูกต้องต่อไป
คำแนะนำคือ ให้หญิงไทยเข้ามาตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ซึ่งการคัดกรองมะเร็งปากมดลูก หมอสูตินรีเวชจะมีการตรวจภายใน ก็คือ การคลำมดลูกรังไข่ด้วย ถ้ามดลูกโตเท่ากับคนท้องสัก 2 เดือน ก็จะเจอแล้ว ถ้าสงสัยจริง ๆ ก็จะมีการอัลตราซาวนด์ร่วมด้วย
สำหรับคนที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ เราก็หลีกเลี่ยงไม่ตรวจภายในได้ การตรวจอัลตราซาวนด์ทางหน้าท้องก็เห็นเนื้องอก 2-3 เซนติเมตรได้ ส่วนใหญ่ประมาณ 99% ไม่ใช่เนื้อมะเร็ง แต่ว่ามันก็มีโอกาสที่จะกลายมาเป็นมะเร็ง แต่ว่าไม่เยอะ ประมาณสัก 1 ใน 10,000 หรือ 1 ใน 100,000.
(ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Arak Wongworachat)