ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสิน เตรียมความพร้อมให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก “โควิด-19” ขอสินเชื่อในโครงการ “สินเชื่อฉุกเฉิน” โดยสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย. 63 เป็นต้นไป
ซึ่ง ณ ตอนนี้ทาง ธนาคารออมสิน และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ทำการปิดรับลงทะเบียนแล้ว เนื่องจากเต็มวงเงินที่ธนาคารตั้งไว้
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่รัฐบาลได้จัดทำโครงกรสืนเชื่อฉุกเฉินผ่าน ธนาคารออมสิน และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. วงเงินแห่งละ 4 หมื่นล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.1% ต่อเดือน
วงเงินกู้รายละไม่เกิน 1 หมื่นบาท และ 5 หมื่นบาท อัตราดอกเบี้ย 0.35%ต่อเดือน กำหนดชำระคืนไม่เกิน 24 งวด นับตั้งแต่วันกู้ ปลอดดอกเบี้ย 6 เดือน เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายจำเป็นและฉุกเฉินในครัวเรือนให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19
อภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กล่าวว่า ตามที่ ธ.ก.ส.ได้เปิดให้ลงทะเบียนผ่านช่องทาง LINE BAAC Family และเริ่มลงทะเบียนขอสินเชื่อตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย.นั้น ปัจจุบัน 17 เม.ย. 2563 มีผู้ลงทะเบียนสำเร็จแล้ว 9.72 แสนราย วงเงินกู้รวมประมาณ 9.7 พันล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มนัดทำสัญญาตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค.เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ธนาคารจะประมวลผลผู้ลงทะเบียน และจัดส่งข้อมูลไปยังสาขาที่ผู้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์จะเข้าไปใช้บริการ จากนั้นสาขาในพื้นที่จะวางแผนนัดหมายผู้ลงทะเบียนผ่าน SMS โดยนัดหมายล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 วัน และคำนึงถึงการปฏิบัติตามหลักการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)
การนัดหมายจะแยกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มลูกค้าเงินกู้เดิม เพื่อลงนามในเอกสารสัญญาเงินกู้ กลุ่มเกษตรกรลูกค้าที่ยังไม่ได้เป็นลูกค้า ยังไม่มีบัญชีเงินกู้และเงินฝากจะวางแผนนัดหมายพบที่สาขา
เพื่ออำนวยความสะดวกในการเปิดบัญชี แนะนำผลิตภัณฑ์ A-Mobile บัตรเดบิต และบัตร ATM หากผ่านการตรวจสอบข้อมูลความเกี่ยวข้องกับการเป็นครอบครัวเกษตรกร กรณีประกอบอาชีพอื่นต้องบอกที่มาของรายได้ที่มาของการส่งชำระ และที่สำคัญผู้ลงทะเบียนมีสิทธิ์กู้เงินตามโครงการนี้ได้ที่ ธ.ก.ส. ที่เดียว ไม่สามารถลงทะเบียนขอกู้ที่อื่นอีกได้
เมื่อดำเนินการเรียบร้อยระบบจะทำการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากโดยตรงภายใน 1 วัน และท่านสามารถถอนเงินสดผ่านตู้ ATM โดยใช้บัตร ATM บัตรเดบิต หรือบริการ กดเงินไม่ใช้บัตรผ่านแอปพลิเคชั่น ธ.ก.ส. A-Mobile ซึ่งท่านสามารถทราบผล การอนุมัติเงินกู้หรือไม่ จาก SMS แจ้งผลตามหมายเลขโทรศัพท์ที่แจ้งไว้
ด้าน ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ยอดลงทะเบียนดังกล่าวของ ธนาคารออมสิน แบ่งเป็นวงเงินกู้ 1 หมื่นบาท จำนวน 4.15 แสนราย วงเงิน 4.15 พันล้านบาท และ วงเงิน 5 หมื่นบาท จำนวน2.6 แสนราย วงเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ธนาคารออมสิน จะเริ่มนัดประชาชนเข้ามาทำสัญญาเงินกู้ฉุกเฉินตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค. เป็นต้นไป โดยจะนัดไว้ไม่เกิน สาขาละไม่เกิน 50 คนต่อวัน สาขาของออมสินมีประมาณกว่า 1 พันแห่งจะทำสัญญาได้วันละ 5 หมื่นคน คาดว่าเริ่มโอนเงินกู้ล็อตแรกให้ประชาชน ในวันที่ 8 พ.ค.นี้
“วงเงินเตรียมไว้สำหรับกู้ฉุกเฉิน 1 หมื่นบาทต่อคน ทั้ง 2 แบงก์รวมกันประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ให้กู้ได้ 4 ล้านคน ขณะนี้ประชาชนยังมากู้ไม่ถึง 50%
ดังนั้นยังเหลืออีกมาก ในการนัดหมายทำสัญญานั้น ใช้วิธีมาก่อนได้ก่อน คาดว่าหลังจากทำสัญญาแล้ว หากเป็นลูกค้าเก่าจะอนุมัติภายใน 1-2 วันกรณี ส่วนลูกค้ารายใหม่ก็ต้องรอตรวจสอบจากเครดิตบูโร ซึ่งในการกู้ต้องตรวจสอบประวัติทางการเงิน ถ้ายังมีสถานะหนี้เสียติดเครดิตบูโรคงกู้ไม่ได้” นายชาติชายกล่าว
ขอบคุณ : สำนักข่าวเนชั่น